For the English version of this blog, click here.
เคยสงสัยกันไหมว่าแผ่นเสียงที่เราฟังกันอยู่ เขาผลิตขึ้นมาอย่างไร ?
วันนี้เราจะพาคุณไปดูขั้นตอนการผลิตแผ่นเสียงไวนิลที่บอกเลยว่า exclusive สุด ๆ ณ งาน BKK Vinyl Fair 2023 เมื่อวันที่ 24-26 มี.ค. ที่ผ่านมา
“กริ๊ง” คือเสียงของลิฟต์ที่เดินทางมาถึงชั้น 8 ของโรงแรม Public House สถานที่จัดงาน BKK Vinyl Fair 2023 เมื่อวันที่ 24-26 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยห้องชุดของโรงแรมถูกแปลงโฉมให้เป็นพื้นที่ซื้อ-ขายและจัดกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับคนรักแผ่นเสียงโดยเฉพาะ
เราเดินออกมาจากลิฟต์ไปยังห้อง 85-86 เพื่อเข้าชมกิจกรรม Exclusive Live to Vinyl Session ที่เชิญศิลปินมาเล่นเพลงพร้อมกับอัดเสียงลงบนแผ่นไวนิลกันสด ๆ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
เปิดประตูห้องเข้ามาปุ๊บก็เจอกับเตียงนอนเป็นอย่างแรกเลย ก็เลยงงนิดหน่อยว่าเรามาถูกชั้นหรือเปล่า สต๊าฟเห็นเราทำหน้างง ๆ ก็เลยพาไปยังห้องที่เชื่อมกัน จังหวะนั้นก็เลยถึงบางอ้อว่าห้องนอนของโรงแรมได้ถูกเนรมิตให้เป็นสตูดิโออัดเสียงและเวทีชั่วคราวแล้ว เดินเข้ามาก็พบกับคุณโจ้ เขียนไขและวานิช ศิลปินรับเชิญของเซสชันนี้กำลังเซ็ตอัพกันอยู่
บรรยากาศระหว่างรอการแสดงนั้นเงียบมาก ๆ ซึ่งต่างจากเวลาชมดนตรีสดที่เราคุ้นเคย เนื่องจากการอัดเสียงลงแผ่นไวนิลเป็นกระบวนการที่อ่อนไหวมาก ต้องกำจัดเสียงรบกวนให้ได้มากที่สุดชนิดที่ว่าแค่เสียงรองเท้าสีกับพื้นก็มีโอกาสติดไมค์แล้ว ผู้ที่มาเยี่ยมจึงต้องถอดรองเท้าไว้ข้างนอกแล้วเดินเท้าเปล่า
ระหว่างรอศิลปินแสดง เราก็ฟังเสียงเสื้อผ้าของผู้คนที่เพิ่งมาถึงเสียดสีกันซวบซาบ สลับกับเสียงหายใจของตัวเอง (บางทีเงียบจนไม่กล้าหายใจ) ซักพักสต๊าฟก็ส่งสัญญาณเริ่มทำการแสดง
คุณเขียนไขและวานิชนั่งลงบนเก้าอี้ของโรงแรม หยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วเริ่มบรรเลงเพลงตามกาลและเวลา เสียงดีดกีตาร์และเสียงร้องของคุณโจ้ถูกส่งเข้าไมโครโฟนที่ต่อสายออกไปยังห้อง 89 ที่อยู่ตรงข้าม ตรงหน้าของศิลปินมีโพยที่จดเซตลิสต์เพลงที่จะเล่นในเซสชันนี้ประหนึ่งคอนเสิร์ต แต่แถมหน้า side A & B มาให้ด้วย ซึ่งก็คือลิสต์เพลงที่จะฝังอยู่ในหน้าแผ่นเสียงแต่ละหน้านั่นเอง แต่ละหน้าจะมีความยาวไม่เกิน 15 นาทีเนื่องมาจากข้อจำกัดหลาย ๆ ประการ
เสียงร้องของคุณโจ้ แค่ฟังสด ๆ ก็อบอุ่นแล้ว จินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าฝังลงไปบนแผ่นแล้วจะอบอุ่นขึ้นขนาดไหน
ฟังเคลิ้ม ๆ ก็จบเพลงแรกแล้ว ผู้เข้าชมก็ดูลังเลว่าจะปรบมือดีไหม เพราะแน่นอนว่าถ้าปรบมือแล้วเสียงปรบมือจะถูกดูดลงไปบนเจ้าแผ่นเสียงนั้นแน่ ๆ
เราอาศัยจังหวะที่เปลี่ยนเพลงเพื่อค่อย ๆ ออกจากห้องอัดเสียงไปยังอีกห้องหนึ่งที่ทีมงานของ ResurRec นำโดยพี่อู่ ไตรเทพ ได้ขนอุปกรณ์ในการมาสเตอร์เพลงและฝังกรู๊ฟมายกชุดเพื่อแปลงห้องชุดโรงแรมให้เป็น dubplate studio ห้องนี้จริง ๆ ใช้เสียงได้แต่ก็ยังไม่กล้าใช้เสียงเท่าไหร่เนื่องจากพี่อู่และคณะทำหน้าที่กันอย่างทะมัดทแมง
ในห้องนี้จะเป็นห้องที่รวมการมาสเตอร์เสียงและฝังเสียงเพลงที่เล่นอยู่ลงบนแผ่น dubplate กันสด ๆ โดยเสียงเพลงจากไมค์ในห้องสตูดิโอจะถูกส่งเข้าห้องมาสเตอร์เพื่อทำการปรับข้อมูลเสียงให้เข้ากับแผ่นไวนิลเพื่อความแม่นยำของเสียง แล้วจึงส่งต่อเข้าเครื่อง dubplate เพื่อทำการเขียนสัญญาณลงบนแผ่น ในขณะเดียวกันเราได้ยินเสียงปรบมือที่ชัดขึ้นในแต่ละช่วง เป็นนัยว่าผู้เข้าชมผ่อนคลายกับบรรยากาศที่เงียบงันแล้ว
พี่อู่เล่าให้ฟังว่า การอัดเสียงสมัยก่อน เวลาทำมาสเตอร์ ศิลปินจะเขียน dubplate ก่อนส่งผลิตจริงในโรงงาน หรือดีเจที่เล่นเพลงแดนซ์ ๆ ก็จะทำแผ่น dubplate ไว้เพื่อไปทดลองเปิดในคลับ ถ้าเสียงตอบรับไม่ได้ดั่งใจก็จะกลับมาแก้ กระบวนการนี้จะต่างกับการทำ master ที่จะกลายเป็นแม่พิมพ์ในการปั๊มแผ่นเสียงในสเกลที่ใหญ่ขึ้นมา
เมื่อจบการแสดง side A แล้ว พี่อู่ก็ทำการพลิกตัวแผ่นสู่ side B แล้วใช้แปรงทำความสะอาดเพื่อเตรียมอัดเสียงต่อไปพร้อมให้ความรู้แก่ผู้เข้าชมที่มายืนดู ในระหว่างช่วงเบรกจะได้ยินเสียงพื้นหลังที่ไมค์จับได้จากอีกห้องหนึ่งผ่านลำโพงแบบเรียลไทม์ เป็นสัญญาณว่าเสียงทุกคลื่นจะถูกฝังลงไปบนแผ่นจริง ๆ
“The perfect session relies on the sound from the audience as much as the sound from the artist.”
จบช่วงพักเบรกแล้วสต๊าฟก็เดินมาให้สัญญาณว่าพร้อมอัด side B แล้วคุณโจ้ก็เริ่มเล่นเพลงให้พี่อู่และทีมเก็บลงแผ่นเสียงอีกครั้งจนจบเซสชัน ทุกคนปรบมือให้กับการแสดงของเขียนไขและวานิช และแน่นอนว่าเสียงปรบมือจากผู้ชมทุกคนจะถูกฝังอยู่ในแผ่นเสียงสุดพิเศษนี้ ซึ่งเราว่านี่แหละคือเสน่ห์ของไวนิล
เมื่ออัดเสียงเสร็จแล้ว คุณอู่ก็เชิญคุณโจ้มาเทสต์เสียงของตัวเองเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วจาก dubplate สด ๆ ได้เลย เท่มาก ๆ ซึ่งคุณภาพเสียงจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เนื่องจากปัจจัยภายนอกหลาย ๆ อย่างที่มากับการบันทึกเสียงแบบสด แต่เหมือนว่าความไม่เพอร์เฟกต์เหล่านี้กลับทำให้แผ่นเสียงแผ่นนี้ยิ่งเพอร์เฟกต์เข้าไปใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
พี่อู่หยิบ “เศษเพลง” ที่หลุดและจับตัวเป็นก้อนมาจากขั้นตอนของการขูดปลายเข็มลงบนแผ่นพลาสติกให้คุณโจ้ลองจับเล่นดู “น่าเอามาเขียนเพลงนะครับ” คุณโจ้เอ่ยขึ้นมา ไม่แน่ว่าเร็ว ๆ นี้อาจจะได้ฟังเพลงใหม่ในชื่อ “เศษเพลง” ของเขียนไขและวานิชก็เป็นได้
คุณโจ้เล่าให้ฟังว่าการอัดเพลงครั้งนี้เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเขา จากที่ปกติเขาจะอัดเพลงผ่านสตูดิโออัดเสียงก่อน พอได้มีโอกาสอัดเพลงสด ๆ แบบนี้ก็ตื่นเต้นไม่เบา
แผ่นเสียงที่ถูกอัด พี่อู่จัดการนำ label มาแปะแล้วใส่ซอง นับว่าจบขั้นตอนแล้ว แล้วจึงมอบให้กับคุณโจ้เป็นของที่ระลึก นับว่าเป็นแผ่นเสียงที่มีแค่แผ่นเดียวบนโลกนี้จริง ๆ ส่วนผู้เข้าชมที่ซื้อบัตรแบบ exclusive มาจะได้รับของที่ระลึกเป็นแผ่นที่จะนำไปมาสเตอร์และปั้มใหม่ทีหลัง (ใช้เวลา 2-4 เดือน)
ในส่วนของผู้เข้าชมที่พลาดเซสชันนี้ไปก็ยังได้โอกาสเข้าชมกิจกรรม Live to Vinyl ของศิลปินคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคุณเจ Penguin Villa หรือคุณต้าและสอง Paradox
ใครที่พลาดกิจกรรมนี้ไปจากงาน BKK Vinyl Fair 2023 ให้ติดตามช่องทางการติดต่อของพวกเราได้เลยเพื่อไม่ให้พลาดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ต่อไป