
Founded by Kool Keith, Ced Gee, TR Love, and Moe Love.
Sofa Talk ฉบับนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับ Ced Gee และ Kool Keith สมาชิกจากวงโอลด์สคูลฮิปฮอปในตำนานอย่าง Ultramagnetic MC’s วงที่เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปี 80s ด้วยอัลบั้มคลาสสิกอย่าง Critical Beatdown อัลบั้มที่มีอิทธิพลและเป็นที่เชิดชูในวงการฮิปฮอปมาจนถึงทุกวันนี้
จากจุดเริ่มต้นการเป็นนักเต้นเบรกแดนซ์ก่อนจะมาเป็นแรปเปอร์ จนกลายเป็นวงฮิปฮอปที่ล้ำสมัยทั้งเนื้อเพลงและจังหวะ อีกทั้งยังเป็นวงแรกที่ใช้แซมเพลอร์เป็นเครื่องดนตรีอีกด้วย มาร่วมพูดคุยกับพวกเขาถึงเรื่องราวชีวิตการทำงาน ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรมฮิปฮอป รวมไปถึงประสบการณ์การเติบโตและอยู่อาศัยในย่านบร็องซ์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของฮิปฮอปผ่านมุมมอง ผู้ที่สร้างสรรค์เพลงฮิปฮอปตั้งแต่ปลายปี 80s มาทำความรู้จักพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน!


Ced Gee
หนึ่งในสมาชิกที่เป็นทั้งเอ็มซีและโปรดิวเซอร์ของ Ultramagnetic MC’s นอกเหนือจากการสร้างตำนานให้กับวงแล้ว เขายังสร้างผลงานอีกหลายเพลงไว้ในอัลบั้ม Criminal Minded ซึ่งเป็นอัลบั้มเปิดตัวที่โดดเด่นจากวง Boogie Down Productions อีกหนึ่งวงฮิปฮอปที่มีอิทธิพลและเป็นที่เชิดชูมากที่สุดของวงการ
Kool Keith
แรปเปอร์และโปรดิวเซอร์จากบร็องซ์ ผู้ร่วม ก่อตั้ง Ultramagnetic MC’s ในปี 1980 และ ก้าวไปสู่การเป็นศิลปินเดี่ยว ได้ร่วมงานกับศิลปินมากมาย เช่น MF Doom, The Prodigy และ Yeah Yeah Yeahs เขาไม่หยุดพัฒนาตนเองและยังคงสร้างสรรค์งานเพลงออกมาอยู่เรื่อย ๆ

เริ่มให้ความสนใจด้านดนตรีเมื่อไหร่?
Ced Gee : ผมรักเสียงเพลงมาโดยตลอด แต่ไม่เคยได้จริงจังกับการเล่นดนตรี จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัยที่มาหลงรักฮิปฮอป จริง ๆ แล้วคีธกับผมเรียนมาด้วยกัน สมัยนั้นผมยังเป็นดีเจอยู่เลย
Kool Keith : ตอนนั้นผมเป็นนักเต้นก่อนจะมาทำเพลง แต่พอมาเจอเซธตอนไฮสคูลเลยตามมาด้วยการแรป
โตมากับการฟังเพลงแบบไหน และอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจในการเป็นศิลปินฮิปฮอป?
Ced Gee : เกิดจากการไปปาร์ตี้แล้วได้เห็นทั้งแรปเปอร์ แสงไฟ เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้คนสนุกสนานจนคลั่ง ผมอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง
Kool Keith : ส่วนผมเปลี่ยนเส้นทางจากนักเต้นมาเป็นแรปเปอร์การได้เห็นศิลปินดัง ๆ ในช่วงนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มฝึกแรปด้วยตัวเอง แรก ๆ ก็ยังแรปต่อหน้าคนอื่นไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ แต่หลังจากฝึกที่บ้านไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มมาทำเดโม่เป็นของตัวเอง
การใช้ชีวิตที่บร็องซ์ในช่วงเวลาที่ฮิปฮอปถือกำเนิดขึ้นและเรียกได้ว่าเป็นยุคทองนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?
Kool Keith : ผมรักชีวิตในในบร็องซ์มากเลย ได้ไปโรงเรียน ได้ไปคลับช่วงนั้นดนตรีที่นี่ดีมากเลย
แล้วเคยได้ไปปาร์ตี้ของคูล เฮิร์ก บ้างไหม?
Ced Gee : ใช่ พวกเราเคยไป ตอนนั้นเราต้องแอบย่องไปปาร์ตี้ ต้องรอจนกว่าพ่อแม่จะเข้านอน พวกเขาเลยไม่ได้สังเกตว่าเด็ก ๆ แอบออกไปข้างนอกกัน
คีธ การเริ่มต้นจากการเป็นนักเต้นช่วยให้คุณเข้าใจจังหวะและเสียงเพลงมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนมาเป็นแรปเปอร์ไหม?
Kool Keith : ใช่ มันช่วยให้ผมเป็นทั้งนักเต้นและแรปเปอร์ที่ดี ผมโตและเต้นมากับเพลงฟังก์ มันทำให้ผมเป็นผมทุกวันนี้ การเต้นทำให้ผมรู้สึกถึงจังหวะ ทำให้ผมแรปไปกับจังหวะได้เหมือนเวลาเต้น ช่วงเปลี่ยนผ่านจากการเต้นไปสู่การแรปจึงผ่านไปได้ด้วยดี มันเป็นเรื่องดีที่เป็นนักเต้นมาก่อน
แนวเพลงของคุณมีเอกลักษณ์ด้วยการใช้ซาวนด์แนวไซไฟ คุณได้แรงบันดาลใจในการนำซาวนด์พวกนั้นมาผสมผสานกับฮิปฮอปมาจากไหน
Kool Keith : ผมโตมากับการดูหนังไซไฟอย่าง Star Trek เราเลยเขียนเพลงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และความไซไฟ ศิลปินส่วนใหญ่มักเขียนเพลงเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นบนท้องถนนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เรารู้กันและอยู่กับมันอยู่แล้ว ผมจึงตัดสินใจเขียนเพลงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และความไซไฟแทน สำหรับผมการแรปไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้น เหมือนว่าทุกคนแรปจริงจังกันเกินไปจนหลาย ๆ ครั้งการแรปถูกตัดสินว่ารุนแรง พออายุมากขึ้นผมก็เริ่มเรียนรู้ว่าการทำเพลงสนุก ๆ นั้นผ่อนคลายกว่าอีก และอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเป็นศิลปินที่แตกต่างออกไป เพราะบางครั้งผมก็ก้าวออกจากกรอบของตัวเอง
จริง ๆ แล้วมันคืออิสระ คุณไม่จำเป็นต้องคิดเชิงกลยุทธ์อะไรขนาดนั้น มันไม่เคยมีกฎเกณฑ์ใด ๆ ในการแรป ผู้คนที่เข้ามาควบคุมพยายามสร้างกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่มีอยู่จริง ไม่มีกฎอะไรที่บอกว่าคุณแรปจังหวะไหนได้หรือไม่ได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ บอกว่าคุณควรจะคล้องจองอย่างไร หรือโฟลว์ของคุณควรเป็นแบบไหนมันไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ ในการแรป
“Hip Hop was not just about
record but it’s a lifestyle,
the way you talk.”
พวกคุณรวมตัวกันก่อตั้ง Ultramagnetic MC’s ได้อย่างไร แล้วชื่อ Ultramagnetic MC’s มาจากไหน?
Kool Keith : จริง ๆ แล้วผมควรจะทำอัลบั้มเดี่ยวก่อน แต่ทางค่ายมีงบประมาณน้อย พวกเขาจึงตัดสินใจทำ Ultramegnetic MC’s แทน ‘ultra’ หมายถึง ความเหนือกว่า ส่วน ‘magnetic’ หมายความว่า ทักษะทางเทคโนโลยีของพวกเราจะดึงดูดผู้ฟังเข้ามา

คุณได้ทำงานร่วมกับศิลปินหลากหลายแนว คุณชอบอะไรเกี่ยวกับการทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยวและการทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่น?
Kool Keith : การทำงานกับศิลปินคนอื่นดีตรงที่มีโอกาสได้ทำอะไรใหม่ ๆ แนวเพลงใหม่ ๆ บางคนจะปล่อยให้คุณมีอิสระ และทำในสิ่งที่คุณชอบทำ บางคนก็ต้องการอะไรที่เฉพาะเจาะจง แต่สำหรับผม ผมได้หมดนะ มันอยู่ที่มุมมอง การทำในสิ่งที่รัก และความทุ่มเทมากกว่า
ถ้าเลือกได้อยากร่วมงานกับแรปเปอร์คนไหนที่สุด?
ไม่ได้มีใครเฉพาะเจาะจง แต่ก็อยากร่วมงานกับศิลปินใหม่ ๆ ร่วมทำอะไรที่ท้าทาย แปลกใหม่ และคาดเดาไม่ได้
การทำเพลงฮิปฮอปในยุค 80s กับในตอนนี้ต่างกันอย่างไร?
สมัยนี้สามารถดาวน์โหลดซาวนด์ได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องไปหาแผ่นเสียงมาทำซาวนด์แล้ว ทุกอย่างง่ายกว่าเดิมมาก มีเทคโนโลยีทันสมัยที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ และสามารถทำเพลงได้ด้วยตัวเอง
แผ่นเสียงที่ชอบที่สุดและเป็นแรงบันดาลใจ?
มีหลายแผ่นที่สร้างแรงบันดาลใจ ฮิปฮอปไม่ใช่แค่เพลงเท่านั้น แต่เป็นไลฟ์สไตล์ วิธีการพูด และอีกมากมาย แผ่นที่ชอบก็จะมีของ The Honeydrippers และ James Brown

คิดว่าฮิปฮอปมีอิทธิพลต่อสังคมอย่างไร ?
Ced Gee : ฮิปฮอปไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต แต่ยังมีอิทธิพลต่อการเงิน ไม่ว่าจะธุรกิจไหนก็มักจะใช้ฮิปฮอปเป็นส่วนหนึ่งในการขาย และทำให้ทุกอุตสาหกรรมรวยขึ้นอีกด้วย
มองอนาคตของฮิปฮอปในอีก 10-20 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร?
Ced Gee : การขิงกันไป-มาควรหมดไป เด็กรุ่นใหม่ควรได้รับคำแนะนำว่าไม่ควรคลั่งจนเกินไป เพราะเด็ก ๆ มักจะได้อิทธิพลการกระทำมาจากรุ่นก่อน ๆ เราควรนำทางให้พวกเขาทำสิ่งดี ๆ เมื่อพวกเขาโตเขาจะได้รู้วิธีรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้
แล้วเห็นตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร ?
ก็คิดว่าจะทำเพลงไปเรื่อย ๆ มันทำให้พวกผมรู้สึกอ่อนเยาว์ หลาย ๆ คนมักบอกว่า “ถึงเวลาที่คุณต้องหยุดทำเพลงแล้วมาตัดหญ้า เลี้ยงหมา กินให้อ้วน และปล่อยให้ผมหงอกได้แล้ว” นั่นคือสิ่งที่พวกผมพยายามหลีกเลี่ยง พวกเขาต้องการให้คุณปล่อยตัวแล้วพูดว่า “ฉันเคยแรปมาก่อน ฉันเป็นตำนาน” นั่นคือเหตุผลที่พวกผมหลีกเลี่ยงเรื่องนี้มาหลายปีแล้วคนเหล่านี้มักรวมตัวกันเป็นครอบครัวและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเคยทำ วิธีที่พวกเขาเคยทำ และสิ่งที่พวกเขาเคยเป็น แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ต่างหาก นั่นแหละคือสิ่งที่พวกผมจะทำ
ติดตามผลงานของ Ced Gee, Kool Keith และ Ultramagnetic MC’s ได้ทาง Twitter : @McsUltra และผลงานล่าสุดของ Ced Gee เพลง Delta 5 รับชมมิวสิกวิดีโอได้แล้วทาง YouTube