1. แกะกล่องและเชื่อมต่อ
นำ Brad ออกจากกล่องและวางลงบนพื้นผิวที่เรียบและสม่ำเสมอ ต่อสายแจ็คเข้ากับปลั๊กและตัวเครื่องด้านหลัง เปิดฝาเครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือจะถอดออกก็ได้เช่นกัน
2. ถอดฝาครอบเข็ม
ถอดฝาครอบเข็มสีขาวและแบล็กท็อปออกจากโทนอาร์ม
3.เปิดเครื่อง
โดยหมุนสวิตช์ไปด้านขวาที่ “On”
4.เลือกรูปแบบการฟังเพลง
สำหรับการเลือกฟังเพลงผ่านไวนิล ให้หมุนสวิตช์ไปที่ตัวเลือก “LP” หรือถ้าอยากฟังเพลงสตรีมมิ่งผ่านมือถือให้หมุนสวิตช์ไปที่ “BT” หรือ Bluetooth นั่นเอง เลือก “Brad” ในบลูทูธทางโทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่อ เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้วเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะมีสัญญานไฟสีส้มปรากฏขึ้นพร้อมเสียงกล่าวว่า “Connected”
อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับไอพอตหรือเทปคาสเซ็ทได้อีกด้วย เพียงแค่หมุนสวิตช์ไปที่ “AUX” เชื่อมต่อสายแจ็คเข้ากับตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงและอุปกรณ์เสริม เพียงเท่านี้ก็สามารถฟังเพลงเพราะๆผ่าน Brad ได้แล้ว หากต้องการเชื่อมต่อลำโพง สามารถเชื่อมต่อสายแจ็คสีดำแดงที่ด้านหลังของเครื่องเล่นแผ่นเสียงกับลำโพงเสริมเพื่อให้ได้เสียงที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
5 .เลือกแผ่นไวนิลอัลบั้มโปรด
วางแผ่นไวนิลลงบนเครื่องอย่างเบามือ แนะนำให้ถือแผ่นไวนิลโดยการใช้มือทั้งสองข้างถือด้านข้างของแผ่น เพื่อไม่ให้มือสัมผัสด้านบนของแผ่นจนเกิดฝุ่นและรอยต่าง ๆ
6. วางโทนอาร์ม
ค่อยๆวางโทนอาร์มลงบนแผ่นเสียงเพื่อเล่นเพลง สำหรับคนที่มือไม่นิ่งสามารถเลื่อน Tonearm Lever เพื่อให้โทนอาร์มค่อยๆลงไปบนแผ่นเองอย่างช้าๆ
7.เลือกสปีด
ปรับความเร็วโดยเปลี่ยนสวิตช์ควบคุมสปีดให้ตรงกับแผ่นเสียง ซึ่งไวนิลขนาด 12” ส่วนใหญ่จะมีสปีดอยู่ที่ 33 1/ RPM ส่วนแผ่น EPS และแผ่นซิงเกิลขนาด 7” จะมีสปีดอยู่ที่ 45 RPM และสำหรับ 78 RPM จะเป็นสปีดสำหรับแผ่นเสียงรุ่นเก่าที่ผลิตในช่วง 50s มีขนาด 10” และ 12” เป็นส่วยใหญ่ (สำหรับแผ่นซิลเกิล 7” สามารถต่ออแดปเตอร์ที่ให้มาลงบนเครื่องเล่น)
8. การปรับ Pitch Control
เป็นการปรับระดับและจังหวะเสียงสำหรับเล่นดีเจ ด้วยการหมุนไปมาเพื่อให้ได้จังหวะที่ต้องการ